คำชี้แจงกรมสรรพากร
|
เรื่อง การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร
|
-----------------------------------------------
|
|
ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๘๐) พ.ศ. ๒๕๕๒ ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับภาษีที่ต้องเสียตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้มีภาษีที่ต้องเสียทั้งสิ้นจำนวนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาทในปีภาษีนั้น แต่ผู้มีเงินได้ยังคงมีหน้าที่ในการคำนวณและเสียภาษีสำหรับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เป็นต้นไป เพื่อให้การยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครั้งนี้เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป กรมสรรพากรจึงขอชี้แจงในสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้ |
|
ในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๒) ถึง (๘) แห่งประมวลรัษฎากร ตั้งแต่ ๖๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป นอกจากจะต้องคำนวณภาษีตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว (เงินได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนต่าง ๆ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ คูณด้วยอัตราภาษีตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้) ผู้มีเงินได้จะต้องคำนวณภาษีตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากรด้วย โดยนำเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๒) ถึง (๘) แห่งประมวลรัษฎากรดังกล่าว คูณด้วยอัตราภาษีร้อยละ ๐.๕ หากมีจำนวนภาษีที่ต้องเสียมากกว่าจำนวนภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร และมีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ผู้มีเงินได้ดังกล่าวได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับภาษีที่ต้องเสียตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร แต่ยังคงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามจำนวนที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
ตัวอย่าง |
(๑) กรณีภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร มีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท และไม่มีภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
ในปีภาษี ๒๕๕๒ นาย ก. เป็นผู้มีเงินได้จากการขายของ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร จำนวนทั้งสิ้น ๘๐๐,๐๐๐ บาท |
การคำนวณตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
เงินได้พึงประเมิน |
๘๐๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก ค่าใช้จ่ายเหมาในอัตราร้อยละ ๘๐ |
๖๔๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก ลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ |
๓๐,๐๐๐
|
บาท |
คงเหลือเงินได้สุทธิ |
๑๓๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก เงินได้สุทธิ ๑๕๐,๐๐๐ บาทแรก (ได้รับยกเว้นภาษี) |
๑๕๐,๐๐๐
|
บาท |
คงเหลือเงินได้สุทธิที่ต้องคำนวณภาษี |
-
|
บาท |
มีภาษีต้องเสียจำนวน (ในอัตราร้อยละ ๑๐) |
-
|
บาท |
การคำนวณตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร |
|
เงินได้พึงประเมิน |
๘๐๐,๐๐๐
|
บาท |
คูณอัตราภาษีร้อยละ ๐.๕ คิดเป็นภาษีที่ต้องเสียจำนวน |
๔,๐๐๐
|
บาท |
ดังนั้น ในปีภาษี ๒๕๕๒ นาย ก. ได้รับยกเว้นภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร และไม่มีภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแต่อย่างใด |
(๒) กรณีภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร มีจำนวนทั้งสิ้นไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท และมากกว่าภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
ในปีภาษี ๒๕๕๒ นาย ข. เป็นผู้มีเงินได้จากการขายของ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร จำนวนทั้งสิ้น ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท |
การคำนวณตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
|
เงินได้พึงประเมิน |
๑,๐๐๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก ค่าใช้จ่ายเหมาในอัตราร้อยละ ๘๐ |
๘๐๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก ลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ |
๓๐,๐๐๐
|
บาท |
คงเหลือเงินได้สุทธิ |
๑๗๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก เงินได้สุทธิ ๑๕๐,๐๐๐ บาทแรก (ได้รับยกเว้นภาษี) |
๑๕๐,๐๐๐
|
บาท |
คงเหลือเงินได้สุทธิที่ต้องคำนวณภาษี |
๒๐,๐๐๐
|
บาท |
มีภาษีต้องเสียจำนวน (ในอัตราร้อยละ ๑๐) |
๒,๐๐๐
|
บาท |
การคำนวณตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร |
|
เงินได้พึงประเมิน |
๑,๐๐๐,๐๐๐
|
บาท |
คูณอัตราภาษีร้อยละ ๐.๕ คิดเป็นภาษีที่ต้องเสียจำนวน |
๕,๐๐๐
|
บาท |
ดังนั้น ในปีภาษี ๒๕๕๒ นาย ข. ต้องเสียภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร จำนวน ๒,๐๐๐ บาท |
(๓) กรณีภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร มีจำนวนทั้งสิ้นเกิน ๕,๐๐๐ บาท และมากกว่าภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
ในปีภาษี ๒๕๕๒ นาย ค. เป็นผู้มีเงินได้จากการขายของ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา ๔๐ (๘) แห่งประมวลรัษฎากร ในปีภาษี ๒๕๕๒ จำนวนทั้งสิ้น ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท |
การคำนวณตามมาตรา ๔๘ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร |
|
เงินได้พึงประเมิน |
๑,๑๐๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก ค่าใช้จ่ายเหมาในอัตราร้อยละ ๘๐ |
๘๘๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก ลดหย่อนสำหรับผู้มีเงินได้ |
๓๐,๐๐๐
|
บาท |
คงเหลือเงินได้สุทธิ |
๑๙๐,๐๐๐
|
บาท |
หัก เงินได้สุทธิ ๑๕๐,๐๐๐ บาทแรก (ได้รับยกเว้นภาษี) |
๑๕๐,๐๐๐
|
บาท |
คงเหลือเงินได้สุทธิที่ต้องคำนวณภาษี |
๔๐,๐๐๐
|
บาท |
มีภาษีต้องเสียจำนวน (ในอัตราร้อยละ ๑๐) |
๔,๐๐๐
|
บาท |
การคำนวณตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร
|
เงินได้พึงประเมิน |
๑,๑๐๐,๐๐๐
|
บาท |
คูณอัตราภาษีร้อยละ ๐.๕ คิดเป็นภาษีที่ต้องเสียจำนวน |
๕,๕๐๐
|
บาท |
ดังนั้น ในปีภาษี ๒๕๕๒ นาย ค. ต้องเสียภาษีที่คำนวณได้ตามมาตรา ๔๘ (๒) แห่งประมวลรัษฎากร จำนวน ๕,๕๐๐ บาท |
จึงขอชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน |
|
กรมสรรพากร
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๒
|
|
สำนักกฎหมาย
โทร. 0-2272-8287-8 |