บริษัท เอสเอ็มแอล ออดิท จำกัด เลขทะเบียนนิติบุคคล 0115555017811 -สาขาบางนา,สมุทรปราการ
ที่อยู่ : เลขที่ 599/43 ซอยก่อนตึกแอคเซียม ถนนกิ่งแก้ว-บางพลี หมู่ 7 ตำบล : บางพลี
อำเภอ : บางพลี จังหวัด :สมุทรปราการ รหัสไปรษณีย์ : 10540
มือถือ : 080-553-7088 /080-5537077 โทร :023494340 /02-758-8994 แฟกซ์ : 021020819
อีเมล :sale@smlaudit.com, smlaudit@hotmail.com
เว็บไซต์ : www.smlaudit.com
การสอบทานภาษี และหมายเหตุ (ภาษี) ประกอบงบการเงิน (จบ) การสอบทานภาษี และหมายเหตุ (ภาษี) ประกอบงบการเงิน (จบ) ทุกงานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกรา จากงานเขียน ‘หมายเหตุภาษี - ประกอบงบการเงิน’ (Notes from Tax Consultants) ไป 2 ตอน สำหรับ 2 บริษัทใหญ่ในแต่ละแขนงของ SET คือ SUC และ ITD…ก็ได้รับเสียงตอบรับจากท่านผู้อ่านผ่านทาง website www.tax-thai.co.th แสดงความเห็นแลกเปลี่ยนความรู้อย่างคึกคัก…นับเป็นประโยชน์ยิ่งต่อมิติการอ่านงบการเงิน (ในมุมภาษีอากร)
ข้อเขียนในวันนี้…จะเจาะอภิมหาอาณาจักรแห่งวงการบันเทิงเมืองไทยคือ BEC (หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า ไทยทีวีสีช่อง 3 (เจ้าของสโลแกน คุ้มค่าทุกนาที…แฮ่ๆ))
1. ข้อมูลทั่วไป
บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) (BEC) เป็นนิติบุคคลจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ลักษณะธุรกิจ
(1) จัดหา ผลิตรายการ และขายเวลาโฆษณาทางโทรทัศน์
(2) ลงทุนในบริษัทย่อย 16 บริษัท และบริษัทร่วม 4 บริษัท ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน เช่น โทรทัศน์ วิทยุ และผลิตภาพยนตร์ อินเทอร์เน็ต มัลติมีเดีย วิดีโอ ซีดี และดีวีดี เป็นต้น
บริษัทย่อยได้ทำสัญญาร่วมดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์สีกับ อ.ส.ม.ท. ตามสัญญาลงวันที่ 28 เมษายน 2521 โดยได้รับสิทธิร่วมดำเนินการออกอากาศสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 จนถึงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และทำสัญญาเช่าเวลาจัดรายการและโฆษณาสถานีวิทยุ อสมท เอฟเอ็ม ความถี่ 105.5 เมกะเฮิรตซ์ ด้วย
2. หมายเหตุภาษี - ประกอบงบการเงิน
งบการเงินรวมปี 2547 - 2548 เฉพาะในส่วนสำคัญเพื่อให้ท่านผู้อ่านเห็นภาพของสถานะการเงิน และผลการดำเนินงานพอสังเขปดังนี้ครับ
2548 (ล้านบาท) / 2547 (ล้านบาท)
รายได้จากการขายโฆษณา 4,963 / 5,493
รายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์ฯ 311 / 219
รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์ 1,032 / 606
ต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการ 2,925 / 2,541
ต้นทุนการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์ 978 / 600
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 1,149 / 954
ภาษีเงินได้นิติบุคคล 432 / 715
กำไรสุทธิ (EAT) 881 / 1,601
จากงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินของผู้สอบบัญชี (CPA) เราอาจเสริมด้วยหมายเหตุภาษี เพื่อให้ผู้บริหารขององค์กรแห่งนี้ได้เกิดวิสัยทัศน์ภาษีเพื่อใช้ประกอบการวางแผน/กลยุทธ์ภาษีของตนพอสังเขปเป็นตัวอย่างได้ดังนี้ครับ
(1) BCE เป็นบริษัทที่มีรายได้รวมและเสียภาษีเงินได้ฯ สูงสุด ของกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ของปี 2548 และ 2549 (3 ไตรมาสแรก) แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการบริหารงาน
แต่จากข้อมูลในงบการเงินรวมปี 2547 - 2548 พบว่าบริษัทฯ มีโอกาสที่จะประหยัดเม็ดเงินภาษีดังกล่าวลงมาได้อีกหลายวิธีและหลายแนวทาง ตัวอย่างเช่น
๐ ความแตกต่างของอัตราภาษีเงินได้ของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (25%) และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ (30%) กับบริษัทลูกที่ British Virgin Island (0% - เพราะเป็น Tax Heaven Country) ส่งผลให้ธุรกรรมต่างบริษัทกันย่อมมีภาระภาษีถูกแพงต่างกันได้
๐ การมีรายการค้าระหว่างกันไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมซื้อขายสินค้า/บริการ หรือการกู้ยืมเงินระหว่างกัน
นอกจากจะก่อให้เกิด operation costs ที่เพิ่มขึ้นแล้ว การเกิดความซ้ำซ้อนของรายการค้าอาจทำให้ภาระภาษีเงินได้สูงขึ้นได้ และอาจเกิดปัญหาการตีความข้อกฎหมายภาษีได้ เช่น ธุรกรรมเป็นการจ้างช่วง หรือ reimbursement (ซึ่งจะมีผลต่อความผิดพลาดในการเสีย VAT ทำให้เกิดเบี้ยปรับเงินเพิ่มได้) หรือกรณีของลิขสิทธิ์ ซึ่งอาจมีประเด็นต้องวินิจฉัยในการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตาม ท.ป.101/2544 และหรือมาตรา 70 เป็นต้น
(2) การตัดจำหน่ายของลิขสิทธิ์ (หมายเหตุ 3.13) ซึ่งระบุว่าตัดจ่ายโดยวิธีเส้นตรง 5 ปี หรือตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญานั้น
สำหรับหลักเกณฑ์ทางภาษีอากรได้มีการบัญญัติที่แตกต่างจากกฎหมายบัญชี กล่าวคือ หลักเกณฑ์ตามมาตรา 4 (4) แห่ง พ.ร.ฎ.#145 กำหนดให้ตัดจ่ายในอัตราร้อยละ 10 (กรณีไม่จำกัดอายุการใช้) หรืออัตราร้อยละ 100 หารด้วยจำนวนปีอายุการใช้ (กรณีจำกัดอายุการใช้) ดังนั้น บริษัทฯ จะต้องทำการปรับปรุงการคำนวณรายจ่ายรอตัดบัญชีฯ ดังกล่าว ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายภาษี ซึ่งจะส่งผลให้อายุการตัดจ่ายทางภาษียาวนานกว่าหลักเกณฑ์ทางบัญชี ทำให้บริษัทต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลฯ สูงในช่วงต้น และต่ำในช่วงปีที่ 6 - 10
(3) การยกทรัพย์สินแก่ อสมท
ด้านผู้โอน (BEC) กรณีที่บริษัทย่อยได้กระทำขึ้นหรือจัดหามาไว้สำหรับใช้ในการออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 ซึ่งสัญญาร่วมดำเนินกิจการฯ กับ อสมท ระบุให้ตกเป็นทรัพย์สินของ อสมท ทันทีที่ได้มาหรือจัดหามานั้น ผู้โอน (BEC) จะต้องมีภาระภาษีดังนี้
๐ ภาษีเงินได้นิติบุคคล มีประเด็นว่ากรณีการยกให้ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวจะต้องถือเป็นรายได้ของ BEC ตามนัยมาตรา 65 ทวิ (4) แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ (คำนวณรายได้ตามราคาตลาด) เห็นว่าไม่ต้อง เพราะถือเป็น ‘เหตุอันสมควร’ ตามนัยมาตรา 65 ทวิ (4) เนื่องจากเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาร่วมบริการฯ โดย BEC ได้ประโยชน์ตามสัญญาถึง 42 ปี
ส่วนด้านรายจ่ายของสินทรัพย์ดังกล่าวนั้น โดยหลักการต้องใช้วิธีคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ (นับแต่วันได้มา) โดยมีสิทธิตัดเป็นรายจ่ายตาม book value ที่เหลือทั้งจำนวนเมื่อโอน แต่เนื่องจากกรณีนี้เป็นการโอนทันทีที่ได้มาซึ่งสินทรัพย์ ดังนั้น จึงมีผลเท่ากับการตัดเป็นรายจ่ายทั้งจำนวนทันทีที่มีการโอนสินทรัพย์ตามสัญญาฯ โดยไม่ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามตามนัยมาตรา 65 ตรี (3) (13) และคำสั่งกรมสรรพากรที่ ป.58/2538 แห่งประมวลรัษฎากร แต่อย่างใด
๐ แต่ในแง่ของ VAT นั้น กรณีดังกล่าวจะต้องเรียกเก็บภาษีขายทันทีที่มีการโอนตามสัญญา (มาตรา 78 ถือว่า tax point เกิดเมื่อส่งมอบ ซึ่งกรณีนี้ก็คือเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ตามข้อตกลงในสัญญานั่นเอง) และต้องออกใบกำกับภาษี
ด้านผู้รับโอน (อสมท) ซึ่งได้รับโอนทรัพย์สินดังกล่าว จะถือว่าเกิดเงินได้พึงประเมินตามมูลค่า (ราคาตลาด) ของสินทรัพย์ ตามนัยมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร และเป็นรายได้เนื่องจากกิจการ ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร ดังนั้น กรณีจึงต้องนำรายรับดังกล่าวไปรวมคำนวณในการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 เพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามเกณฑ์สิทธิ (ม.65) และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีซื้อ - input tax) โดยมีสิทธิขอคืนภาษีซื้อได้ตามปกติ
(4) การจัดตั้งหน่วยภาษีในต่างประเทศ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2547 บริษัท บีอีซี เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยฯ ได้ลงทุนใน Themes STAR Limited (British Virgin Island (BVI)) ใน สัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 51 (ลดสัดส่วนเหลือ 40% ในเดือนธันวาคม 2548)
การมีหน่วยภาษี (tax entity) ในต่างประเทศ เพื่อประกอบธุรกิจการค้าในต่างประเทศนั้น ถือเป็น กลยุทธ์ภาษีที่ดีอย่างหนึ่งในการลดภาระภาษีได้ เนื่องจากความแตกต่างของอัตราภาษีเงินได้ของ 2 ประเทศ และในบางกรณีอาจได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากรโดยผ่านกรอบสนธิสัญญาเขตการค้าเสรี (เช่น WTO, AFTA, FTA เป็นต้น) หากเข้าตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไข (เช่นได้สิทธิลด/ยกเว้นอากรขาเข้าหากสินค้านั้นๆ มีแหล่งกำเนิดในประเทศคู่สัญญา เป็นต้น)
ส่วนกรณีการจัดตั้งบริษัทที่ BVI ซึ่งเป็นสวรรค์ภาษี (Tax Heaven Country) นั้น เหมาะที่จะเป็นกรณีของบริษัทที่ทำธุรกิจเอง (base company) เพราะไม่มีภาระภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ BVI แต่ประเทศดังกล่าวก็มิได้มีอนุสัญญาภาษีซ้อนกับไทย ดังนั้น กรณีมีการจ่ายเงินได้ตามมาตรา 40 (2) - (7) แห่งประมวลรัษฎากร ก็ต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราสูง (คือ 15% เต็มเพดาน)
กล่าวสำหรับภาษีเงินได้ในระดับผู้ถือหุ้นในบริษัทที่ BVI ดังกล่าว ยังคงมีภาระภาษีสำหรับรายได้เงินปันผลและ capital gains (ถ้ามี) ณ ประเทศถิ่นที่อยู่ (residence country) โดยไม่ได้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามนัยแห่ง พ.ร.ฎ.#442 (พ.ศ.2548) เพราะประเทศ BVI ไม่เก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล (เงื่อนไขหนึ่งในการยกเว้นภาษีเงิน ปันผลก็คือ source country จะต้องเก็บภาษีเงินได้ไม่ต่ำกว่า 15%)
(5) การรับรู้รายได้รายจ่าย นโยบายการรับรู้รายได้และค่าใช้จ่ายของ BEC ที่สำคัญได้แก่
๐ รายได้จากการขายโฆษณา บันทึกเมื่อให้บริการออกอากาศทางโทรทัศน์ และวิทยุ
๐ รายได้จากผลิตภัณฑ์ภาพยนตร์และละครบันทึกตามวันที่ออกฉายหรือเมื่อมีการขาย
๐ รายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์ บันทึกเมื่อมีการแสดงแล้ว
๐ รายจ่ายคอนเสิร์ตระหว่างผลิต ตัดเป็นต้นทุนการผลิตเมื่อได้มีการแสดงแล้วตามสัดส่วนการแสดงที่เกิดขึ้น
๐ รายจ่ายรายการโทรทัศน์ระหว่างผลิต บันทึกเป็นต้นทุนเมื่อโอนสิทธิและส่งมอบหรือได้ออกอากาศแล้ว
ตามมาตรา 65 ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.1/2528 (แก้ไขเพิ่มเติมโดย ท.ป.155/2549) แห่งประมวลรัษฎากร ได้บัญญัติให้ใช้เกณฑ์สิทธิ (accrual basis) ซึ่งในกรณีของธุรกิจบริการก็คือ เมื่อมีการให้บริการแล้วเสร็จ (ทั้งหมดหรือตามส่วนตามแต่กรณี) ส่วนต้นทุนการให้บริการนั้นแม้กฎหมายภาษีจะมิได้กล่าวถึงโดยตรง แต่นัยของคำว่า ‘เกณฑ์สิทธิ’ ก็คือต้องรับรู้ต้นทุนการให้บริการตามหลัก matching principle นั่นเอง
(ท่านผู้อ่านสามารถติดตามรายละเอียดที่เจาะลึกได้ที่นิตยสาร Tax & Business Review นะครับ!)
เรื่อง : อมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ |
การสอบทานภาษี และหมายเหตุ (ภาษี) ประกอบงบการเงิน
![]() ![]() ![]() |