มูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สิน | หลักเกณฑ์ภาษีอากรและแนวปฏิบัติจากกรมสรรพากร
ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 7 คน
dot
dot

dot
สมาชิกใหม่ขณะนี้ คน


ตะแกรงเหล็กฉีกสตีลเมทัล
http://www.smlaudit.com/SMLaudit.html


มูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สิน article

มูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ของทรัพย์สิน

กรณีทรัพย์สินชำรุด สูญหาย หรือถูกทำลาย สามารถนำมูลค่าที่เหลืออยู่ไปหักเป็นรายจ่ายได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ที่กำหนดโดยกรมสรรพากร

แม้ในทางบัญชีจะมีแนวทางในการตัดมูลค่าทรัพย์สินที่ชำรุดจนไม่สามารถใช้งานได้โดยการด้อยค่า (impairment) ซึ่งยอมรับให้เป็นรายจ่ายในการดำเนินกิจการได้ แต่ในทางภาษีอากร ยังต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร มาตรา 65 ตรี และคำสั่งกรมสรรพากรที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถสรุปแนวทางปฏิบัติหลักได้ดังนี้

1. ทรัพย์สินชำรุดจนใช้การไม่ได้

หากทรัพย์สินชำรุดแต่ยังไม่ถูกขายหรือทำลาย ไม่สามารถนำมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่ไปหักเป็นรายจ่ายทางภาษีได้ทันที การตัดค่าใช้จ่ายจะทำได้ต่อเมื่อทรัพย์สินดังกล่าวได้มีการทำลายหรือจำหน่ายออกไปแล้ว โดยต้องมีหลักฐานการขายหรือการทำลายอย่างชัดเจน

2. ทรัพย์สินสูญหาย

(1) มีประกันหรือคุ้มครอง
หากบริษัทมีประกันหรือสัญญาคุ้มกันใด ๆ ไว้ การขาดทรัพย์สินนั้นยังไม่สามารถถือเป็นรายจ่ายได้จนกว่าจะได้รับการชดเชยจากบริษัทประกัน หากค่าชดเชยน้อยกว่าความเสียหาย ส่วนต่างจึงสามารถถือเป็นรายจ่ายได้ แต่หากค่าชดเชยมากกว่า ต้องนำส่วนเกินไปรวมเป็นรายได้

(2) ไม่มีประกันหรือคุ้มครอง
สามารถตัดมูลค่าต้นทุนที่เหลืออยู่นั้นเป็นรายจ่ายได้ หากมีหลักฐานน่าเชื่อถือ เช่น หนังสือแจ้งความ ภาพถ่าย หรือรายงานเหตุการณ์อย่างเป็นทางการ

3. ทรัพย์สินที่เสียหายแต่ต้องส่งคืนซากให้บริษัทประกันภัย

กรณีต้องคืนซากให้บริษัทประกันภัย ถือว่าเป็นการขายซากให้บริษัทนั้นตามมาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทต้องนำมูลค่าซากมาคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมูลค่าสภาพซาก ณ วันที่โอน

4. ทรัพย์สินที่จดทะเบียน เช่น รถยนต์

หากมีการประกันไว้และมีการโอนกรรมสิทธิ์ให้บริษัทประกันภัย ต้องนำค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับมารวมคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย และต้องยื่นภาษีอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์

5. สินค้าที่ซื้อมาเพื่อขาย แต่สูญหาย

หากไม่มีการประกัน ถือเป็นความเสียหายจากการดำเนินกิจการ และสามารถนำไปหักเป็นรายจ่ายได้ แต่ต้องมีหลักฐาน เช่น หนังสือแจ้งความประกอบ

ในกรณีที่สินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ จะถือว่าเป็นการขายสินค้าโดยปริยาย และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากราคาตลาดของสินค้านั้น

ทั้งนี้ ภาษีซื้อจากสินค้าที่สูญหายเนื่องจากถูกโจรกรรม หากไม่ต้องห้ามตามมาตรา 82/5 แห่งประมวลรัษฎากร ก็สามารถนำมาหักออกจากภาษีขายได้ตามมาตรา 82/3

สรุป

ผู้ประกอบการต้องแยกแยะให้ชัดเจนว่าทรัพย์สินที่เหลืออยู่เป็นกรณีใด มีการชดเชยหรือไม่ และมีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ เพราะแต่ละกรณีมีผลทางภาษีแตกต่างกัน การหักเป็นรายจ่ายต้องมีองค์ประกอบและหลักฐานที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ผิดหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร และเพื่อความถูกต้องในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล

ติดต่อสำนักงานบัญชี SML Audit

เบอร์โทรศัพท์: 080-553-7088
LINE:
@smlaudit
Email: smlaudit@hotmail.com
เว็บไซต์:
www.smlaudit.com




ข่าวบัญชี-Accounting

ผู้ทำบัญชีจะต้องอบรมทุกรอบ 3 ปี 27ชม. article
มาเตรียมตัวเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตกันเถอะ article
อัตราค่าปรับกรณีไม่ยื่นงบการเงินหรือยื่นล่าช้า article
สภาวิชาชีพบัญชีค้านกฎหมายหุ้น ให้ผู้สอบบัญชี จับผิดผู้บริหารขี้โกง article
จ่ายในการดำเนินกิจการ article
รายจ่ายค่าสวัสดิการพนักงาน article
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายรางวัล ส่วนลดหรือประโยชน์ใดๆจากการส่งเสริมการขาย article
ดันมาตรฐานบัญชีไทยเทียบสากล สร้างหน้าตาตลาดทุนไทยไม่ขี้เหร่ article
จรรยาบรรณของผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี article
จดทะเบียนธุรกิจ เมื่อจะเริ่มต้นประกอบกิจการ จะจดทะเบียนแบบไหนดี article
การวางแผนภาษี เงินประกันและเงินมัดจำ สำหรับกิจการรับเหมาก่อสร้าง article
ข้อมูลบัญชีจำเป็นต่อเจ้าของกิจการอย่างไร article
นักบัญชีเพื่อนซี้ยันป้าย article