แผนการตลาดของสํานักงานบัญชียุคใหม่ (จบ)
โดย ศิริรัฐ โชติเวชการ [23-7-2004]
วันนี้เรามาว่ากันต่อถึงแผนการตลาดของสำนักงานบัญชียุคใหม่ ซึ่งเป็นภาคอวสาน ดังต่อไปนี้ค่ะ
Price
การกำหนดราคาสำนักงานจะใช้นโยบายระดับราคาที่เป็นราคาตลาดถัวเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูง (Medium high Price)
โดยพิจารณาจากปริมาณงานที่ต้องให้บริการเพราะไม่ต้องการไปแข่งขันในตลาดล่างที่เน้นนโยบายราคาซึ่งจะทำให้งานบริการมีคุณภาพที่ลดลงเพื่อให้ธุรกิจมีกำไรด้วยบริการราคาถูก
Place
สามารถให้บริการแก่ลูกค้าทั้งที่สำนักงานหรือ ณ ที่ตั้งของลูกค้า
Promotion
การจัดให้มี Website ของสำนักงาน เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายและบัญชีแก่ผู้เข้าชม หรือจัดให้มีการตอบคำถามผู้เข้าชมผ่าน webboard แล้วนำไปผูกเชื่อม(Link)กับ web ที่อยู่ในสายธุรกิจและมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ทำ Direct Mail หรือเข้าร่วมในกิจกรรมของ Target Customer Group เช่น ลูกค้าที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรม หรือ สมาชิกของสมาคมการค้า การอาศัยลูกค้าบอกต่อ ถ้าลูกค้ารู้สึกประทับใจในบริการที่ได้รับจากสำนักงาน
People
ใช้พนักงานที่มีวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางด้านบัญชี มีความรักในงานบริการ สามารถทำงานเป็นทีมและเข้ากับเพื่อนร่วมงานคนอื่นได้ดี อ่านเอกสารบัญชีที่จัดทำเป็นภาษาต่างประเทศได้เข้าใจ ส่งเสริมการอบรมและพัฒนาบุคลากรในองค์กร มีการนำระบบ Key Performance Indicator (KPI) มากำหนดเป้าหมายในการปฏิบัติงาน และสร้างแรงจูงใจในการทำงาน มีการปรับเพิ่มเงินเดือนเพื่อเป็นกำลังใจหากได้รับวุฒิเพิ่ม เช่น ผ่านการทดสอบภาษาอังกฤษขั้นสูง หรือสอบเป็น TAX AUDITOR ได้ ฯลฯ
Physical evidence
เพื่อเน้นความเป็นสำนักงานที่ทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปฏิบัติงาน พนักงานทุกคนจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานตั้งอยู่บนโต๊ะของตนเอง เอกสารที่ใช้สำหรับติดต่อกับลูกค้าต้องเป็นกระดาษหรือซองที่มีชื่อและที่อยู่ของสำนักงานอยู่ด้วยเสมอและเพื่อให้สามารถรองรับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นชาวต่างชาติ จะให้มีการพิมพ์ข้อมูลภาษาอังกฤษและภาษาจีนในแผ่นพับ (Brochure) ด้วย ส่วนข้อมูลและบทความใน Website ก็จะจัดให้มีภาคภาษาอังกฤษด้วย
Process
จัดให้มีการจัดทำคู่มือมาตรฐานในการทำงานเพื่อให้เกิดการทำงานเป็นระบบเดียวกันทำให้สามารถควบคุม คุณภาพของงาน หัวหน้างานจะต้องหมุนเวียนทำหน้าที่ในการให้การอบรมแก่พนักงานในเรื่องของบัญชีหรือกฏหมายธุรกิจหรือกฏหมายภาษีอากรที่เปลี่ยนแปลง Partnership สามารถแบ่งพิจารณาออกเป็นสองส่วน คือลูกค้า จัดให้มีการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดและมีช่องทางที่ลูกค้าสามารถติดต่อกับสำนักงานได้อย่างสะดวกเช่น E-Mail, Webboard หรือ Direct Line กำหนดตัวบุคลากรที่มีหน้าที่รับผิดชอบและแจ้งให้กับลูกค้าทราบ เพื่อให้เป็น First Contact Point ของลูกค้ากับบริษัทฯ
คู่ค้า / พันธมิตรทางธุรกิจ
ค้นหาจุดเด่นของคู่ค้าและของตนเองที่สามารถนำมาเสริมจุดด้อยของแต่ละฝ่าย เพื่อนำมาสร้างให้เกิด win win situation ให้รีบติดต่อสื่อสารเพื่อสอบถามหรือทำความเข้าใจ หากเกิดข้อเคลือบแคลงสงสัย จะไม่ปล่อยให้ข้อสงสัยค้างคาใจอยู่โดยไม่มีการชี้แจง
หวังว่าท่านคงจะพอมองเห็นภาพของสำนักงานบัญชีแห่งอนาคตของบ้านเราได้แล้วว่าจะเป็นอย่างไร และอย่าลืมว่า ท่านที่เป็นเจ้าของธุรกิจก็ต้องปรับตัวเพื่อรองรับ พัฒนาการของพวกเขาเช่นเดียวกัน
ที่มา: http://www.thaiaccounting.com