การประกอบวิชาชีพเป็นผู้ทำบัญชีนั้น ผู้ประกอบวิชาชีพต้องเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี หรือ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับสภาวิชาชีพบัญชี(เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น) พระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 มาตรา 44 กำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ต้องเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีหรือ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับสภาวิชาชีพบัญชี
- สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี
- ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีกับสภาวิชาชีพบัญชี
ประเภทของสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี
สมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีตามพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 แบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ
- สมาชิกสามัญ
เป็นผู้สำเร็จการศึกษาวิชาการบัญชีไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี หรือได้รับประกาศนียบัตร หรือวุฒิอื่นเทียบเท่าปริญญาตรีสาขาวิชาการบัญชีที่สภาวิชาชีพบัญชีรับรอง
- สมาชิกวิสามัญ
เป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าในสาขาบริหาร ธุรกิจ พาณิชยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ หรือสาขาอื่นที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่ามี ความเกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพบัญชีผู้ที่มีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าในสาขาบริหารธุรกิจ พาณิชยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์
- สมาชิกสมทบ
เป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่าปริญญาตรี แต่ไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทางด้านการบัญชีหรือด้านอื่นที่มีการสอนวิชาการบัญชีเป็นหลัก บริหารธุรกิจ (สาขาวิชาการบัญชี) หรืออนุปริญญาทางการบัญชี
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีมีมติเชิญ
คุณสมบัติของผู้สมัครเป็นสมาชิกแต่ละประเภท
สมาชิกสามัญ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(2) มีสัญชาติไทย
(3) สำเร็จการศึกษาวิชาการบัญชีไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
หรือได้รับประกาศนียบัตร
หรือวุฒิอื่นเทียบเท่าปริญญาตรีสาขาวิชาการบัญชีที่สภาวิชาชีพบัญชีรับรอง
หรือสำเร็จการศึกษาสาขาอื่นตามที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด
(4) ไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณอันนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่ง วิชาชีพบัญชี ตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(5) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่เป็นการประพฤติผิด จรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพตามที่กำหนด ในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(6) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
สมาชิกวิสามัญ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(ก) สมาชิกวิสามัญซึ่งมีสัญชาติไทย
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(2) สำเร็จการศึกษาในระดับไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่าในสาขาบริหารธุรกิจ
พาณิชยศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ หรือสาขาอื่นที่คณะกรรมการพิจารณาเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องกับการประกอบวิชาชีพบัญชี
(3) ไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณอันนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่ง วิชาชีพบัญชี ตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(4) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่เป็นการประพฤติผิด จรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพตามที่กำหนด ในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(5) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(ข) สมาชิกวิสามัญซึ่งไม่มีสัญชาติไทยต้องมีคุณสมบัติและ ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 14 วรรค 2 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 คือ
(1) เป็นผู้มีสัญชาติของประเทศซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยประกอบอาชีพสอบบัญชีในประเทศนั้นได้
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(3) สำเร็จการศึกษาวิชาการบัญชีไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี
หรือได้รับประกาศนียบัตร
หรือวุฒิอื่นเทียบเท่าปริญญาตรีสาขาวิชาการบัญชีที่สภาวิชาชีพบัญชีรับรอง
หรือสำเร็จการศึกษาสาขาอื่นตามที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด
(4) ไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณอันนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่ง วิชาชีพบัญชี ตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(5) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่เป็นการประพฤติผิด จรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพตามที่กำหนด ในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(6) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
สมาชิกสมทบ ต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อ
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
(2) มีสัญชาติไทย
(3) มีวุฒิการศึกษา ดังนี้
(ก) สำเร็จการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่าปริญญาตรี แต่ไม่ต่ำกว่าประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทางด้านการบัญชีหรือด้านอื่นที่มีการสอนวิชาการบัญชีเป็นหลัก บริหารธุรกิจ (สาขาวิชาการบัญชี) หรืออนุปริญญาทางการบัญชี หรือ
(ข) อยู่ระหว่างการศึกษาในระดับปริญญาตรีทางด้านการบัญชี หรือด้านอื่นที่มีการสอนวิชาการบัญชีเป็นหลัก หรือบริหารธุรกิจ(สาขาวิชาการ บัญชี)
(4) ไม่เป็นผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณอันนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่ง วิชาชีพบัญชี ตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(5) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในคดีที่เป็นการประพฤติผิด จรรยาบรรณอันจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพตามที่กำหนด ในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
(6) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเป็นโรคตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี
1. สิทธิของสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547
- สมาชิกสามัญ สมาชิกสามัญมีสิทธิและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
1. แสดงความคิดเห็นในการประชุมใหญ่
2. ออกเสียงลงคะแนนในการประชุมใหญ่
3. เลือกตั้ง รับเลือกตั้ง หรือรับแต่งตั้ง เป็นกรรมการหรือดำรงตำแหน่งอื่นอันเกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพบัญชีตามพระ ราชบัญญัตินี้
4. ชำระค่าบำรุงสมาชิกหรือค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชี
5. ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพบัญชีและปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
6. สิทธิและหน้าที่อื่นตามที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด
- สมาชิกวิสามัญ สมาชิกสมทบ มีสิทธิและหน้าที่ตาม ข้อ 1, 4, 5 และ 6
2. สิทธิพิเศษอื่นตามที่สภาวิชาชีพบัญชีกำหนด
- สมาชิกสามัญ / วิสามัญ / สมทบ ประเภทราย 1 ปี
1. ส่วนลด 10% ในการซื้อหนังสือสภาฯตลอดอายุบัตร ยกเว้นหนังสือที่ลดราคาแล้ว
2. ซื้อบัตรอบรม / สัมมนา ในราคาพิเศษตามอัตราและเวลาที่กำหนดในเอกสารเผยแพร่การอบรม / สัมมนา โดยในแต่ละครั้ง 1
บัตรสมาชิกใช้สำหรับ 1 ที่ ใบเสร็จรับเงิน หรือใบกำกับภาษีออกในนามสมาชิกบุคคลนั้น
- สมาชิกสามัญ / วิสามัญ / สมทบ ประเภทราย 3 ปี และ 5 ปี
1. ส่วนลด 20% ในการซื้อหนังสือสภาฯ ตลอดอายุบัตร ยกเว้นหนังสือที่ลดราคาแล้ว
2. ซื้อบัตรอบรม / สัมมนา ในราคาพิเศษตามอัตราและเวลา ที่กำหนดในเอกสารเผยแพร่การอบรม / สัมมนา โดยในแต่ละครั้ง 1
บัตรสมาชิกใช้สำหรับ 1 ที่ ใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีออกในนามสมาชิกบุคคลนั้น
ค่าบำรุงสมาชิก
อัตราค่าบำรุงสมาชิกเป็นอัตราตามรายปีปฏิทิน (1 มกราคมถึง 31 ธันวาคมของทุกปี) ดังนี้
- สมาชิกสามัญ /วิสามัญ
ราย 1 ปี 500.- บาท
ราย 3 ปี 1,500.- บาท
ราย 5 ปี 2,500.- บาท
- สมาชิกสมทบ
ราย 1 ปี 300.- บาท
ราย 3 ปี 900.- บาท
ราย 5 ปี 1,500.- บาท
ขั้นตอนการสมัครเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี (สวบช. 1)
(1) ดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัครเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี (สวบช. 1)
(2) แนบหลักฐานประกอบการสมัครเป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี (รายละเอียดตามแบบ สวบช.1)
(3) นำส่งสภาวิชาชีพบัญชีทาง
- เคาน์เตอร์ ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชี
- ไปรษณีย์
- ระบบออนไลน์ (สภาวิชาชีพบัญชีจะอนุมัติคำขอเมื่อได้รับเอกสารต้นฉบับ)
การต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี
ค่า บำรุงสมาชิกเป็นอัตราตามรายปีปฏิทิน (1 มกราคมถึง 31 ธันวาคมของทุกปี) สมาชิกจะขอต่ออายุสมาชิกภาพและชำระค่าบำรุงได้ล่วงหน้าภายในสามเดือนก่อน บัตรหมดอายุ แต่จะล่าช้าเกินเดือนมกราคมของปีถัดไปไม่ได้
- วิธีการต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี
(1) ดาวน์โหลดแบบฟอร์มคำขอต่ออายุสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี (สวบช. 3)
(2) แนบหลักฐานการเปลี่ยนแปลงชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
(3) นำส่งสภาวิชาชีพบัญชีทาง
- เคาน์เตอร์ ณ อาคารสภาวิชาชีพบัญชี
- ไปรษณีย์
- ระบบออนไลน์ (กรณีมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ-สกุล สภาวิชาชีพบัญชีจะอนุมัติคำขอเมื่อได้รับเอกสารต้นฉบับ)
ประกาศ /ข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับสมาชิก สภาวิชาชีพ