BPO กับอนาคตของการบัญชีเพื่อการจัดการ
โดย ศิริรัฐ โชติเวชการ [2-5-2005]
คราวที่แล้วคุยกันถึงเรื่องของ BPO ก็เลยติดลมบนมาจนถึงฉบับนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เป็นแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับการจัดการ ยุคใหม่ที่เคยเล่าให้ฟังแล้วว่าทุกธุรกิจจะมุ่งให้ความสำคัญกับ Core business ส่วนเรื่องที่ไม่ถนัดเช่น HR บัญชี CRM จะว่าจ้างคนภายนอกให้จัดการ และแน่นอนงานที่จะเป็นที่นิยม ที่จะส่งออกไปให้บุคคลภายนอกทำเป็นอันดับแรกก็คืองานของแผนกบัญชีและการเงิน
หลายๆ ท่านอาจจะบอกว่าไม่เห็นจะแปลกเลยเพราะทุกวันนี้ก็จ้างสำนักงานบัญชีทำงานบัญชีให้อยู่แล้ว ตรงนี้ต้องมาทำความเข้าใจกันหน่อยเพราะบริการด้านบัญชีฯในความหมายของ BPO คือบัญชีเพื่อการบริหารงาน ที่สามารถรายงานสถานะของกำไรขาดทุน อย่างถูกต้องและทันท่วงทีแบบ วันต่อวันเพื่อที่ธุรกิจที่เป็นลูกค้าจะได้นำข้อมูลนี้มาใช้วิเคราะห์และวางแผนในการพัฒนากิจการ แต่ลักษณะการจ้างทำบัญชีในบ้านเราทุกวันนี้คือการทำบัญชีและยื่นภาษีตามที่กฎหมายบังคับ
โดยตัวเลขที่รายงานอาจจะไม่ตรงกับความเป็นจริงและจะมีให้ดูเพียงปีละครั้ง กว่าจะได้รายงานก็จะเป็นประมาณเดือนพฤษภาคมของปีถัดไปเพราะจะต้องยื่นงบกับทางราชการตอนปลายเดือน การจ้างทำบัญชีแบบไทยๆของเราจึงไม่ได้ช่วยอะไรในด้านการบริหารงานเลย
เรื่องของ BPO นั้น เขาบอกว่าต้องมีตัวชี้วัด (KPI) ต่อไปนี้
Business value delivered
การใช้บริการ นั้นต้องสามารถทำให้ลูกค้ามีมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจมากขึ้น
Financial growth
บริการนั้นจะต้องทำให้ลูกค้าService
การบริการนั้นต้องเป็นที่พอใจของลูกค้า
People
ทีมงานของผู้ให้บริการต้องได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี ทำงานอย่างมุ่งมั่นตั้งใจและมีความสุขกับงาน
หลายๆ ท่าน อาจจะมีคำถามว่า ถ้าเอางานบัญชีไปให้บริษัทภายนอกทำ แล้ว CFO ที่ถูกจ้างมาด้วยเงินเดือนแพงโขอยู่นั้น จะให้ทำงานอะไร คำตอบก็คือ หน้าที่ของ CFO ในอนาคต ที่จะมีเวลามากขึ้นเพราะใช้บริการ BPO นั้น คือจะต้องเน้นในงานด้านต่อไปนี้
- บริหารงานด้วยต้นทุนต่ำที่สุดแต่ได้ผลตอบแทนสูงที่สุด
- ข้อมูลทางบัญชีต้องโปร่งใสเชื่อถือได้
- ต้องสามารถบริหารความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงของเงื่อนไขทางธุรกิจ โดยสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้
- ต้องสามารถบริหารกระแสเงินสดให้มีความคล่องตัวสูงสุด
- ต้องสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารงาน
ดังนั้นอย่าได้ห่วงว่า CFO ของท่านจะต้องนั่งตบยุงเพราะเขาจะยังต้องทำงานหนักอยู่แต่จะเน้นหนักไปในแง่ของงานวิเคราะห์และพัฒนามากกว่างานที่มีแต่ปริมาณ
ก่อนจะจบเรื่องของ BPO ก็ยากจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า BOI ของเราก็ทันสมัยเหมือนกันเพราะเพิ่งให้มีการส่งเสริมการลงทุน กิจการที่ให้บริการในรูปแบบของ BPO โดยเท่าที่ดูแล้วจะเน้นไปทางด้านนักลงทุนต่างชาติมากกว่าเพราะสิทธิประโยชน์นั้นจะได้แต่การที่จะอนุญาตให้มีชาวต่างชาติถือหุ้นได้ มากกว่า 49% แต่ไม่มีสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีให้ ดังนั้นจะเป็นได้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว
ที่มา: http://www.thaiaccounting.com